พิภพอันมหัศจรรย์รอบตัวเราเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเป็นจำนวนมาก แมว สุนัข ม้า วัว ควาย ช้าง หมี จิ้งจก ต้นไม้ ดอกไม้ รวมทั้งมนุษย์ และยังมีสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นมากมาย สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เหล่านี้มาจากไหน?
ผู้ที่เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการสอนว่า นานมาแล้วโลกของเราไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลยตามคำบอกเล่าว่า ในที่สุดสิ่งที่ไม่มีชีวิตก็กลายมาเป็นสิ่งมีชีวิต แล้วสิ่งมีชีวิตก็จะเปลี่ยนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นไม่เหมือนเดิม แล้วสิ่งมีชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ ไปอย่างไม่หยุดยั้ง ตามคำบอกเล่าของพวกที่เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการ ชีวิตมีจุดเริ่มต้นมาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต เมื่อชีวิตได้เริ่มต้นพืชชนิดหนึ่งจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นพืชอีกชนิดหนึ่ง สัตว์ชนิดหนึ่งจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ในไม่ช้าสัตว์มีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมนุษย์ คำถามก็คือว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวเราสามารถเห็นมันเกิดขึ้นในโลกที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราหรือเปล่า? เปล่าเลย เราไม่เห็นเลยในชีวิตประจำวันเราสามารถเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบตัวเราเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติอย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น ถ้าเราถามชาวไร่ว่า ลูกวัวมาจากไหน? เขาจะตอบว่าลูกวัวเกิดมาจากแม่วัว ถามคนปลูกสวนดอกไม้ว่า กุหลาบมาจากไหน? เขาจะตอบว่ามาจากกุหลาบต้นอื่น ถามคนเลี้ยงผึ้งว่า ผึ้งตัวอ่อนมาจากไหน? เขาจะตอบว่ามาจากการวางไข่ของผึ้งนางพญา ในธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลกจะเป็นเช่นนี้เสมอไป วัวจะออกลูกมาเป็นลูกวัว กุหลาบมาจากกุหลาบ ผึ้งจะผลิตเป็นตัวผึ้งมากขึ้น
วิทยาศาสตร์และกฏไบโอเยเนซิศ
เมื่อนักวิทยาศาสตร์ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติเขาสังเกตว่า มีบางสิ่งเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ซ้ำซากไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์สังเกตว่ามันเกิดซ้ำซากโดยไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ สิ่งมีชีวิตมาจากสิ่งมีชีวิตเสมอ นักวิทยาศาสตร์รู้ความจริงนี้เป็นเวลาหลายปีแล้ว ในปี ค.ศ.1858 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันมีนามว่า รูดอล์ฟ เวอร์โชว์ ได้กล่าวเป็นใจความว่า "เซลล์ทุก ๆ เซลล์เกิดมาจากเซลล์ที่เกิดก่อน" ในปี ค.ศ.1860 หลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวว่า "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดเกิดมาจากสิ่งมีชีวิตก่อนหน้านั้น" นักวิทยาศาสตร์ในอดีตเหล่านั้นได้กล่าวในสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สมัยปัจจุบันเรียกว่า กฎไบโอเยเนซิศ (Law of Biogenesis) เป็นกฎที่ว่าชีวิตมาจากชีวิตก่อน กฎนี้เป็นกฎของชีววิทยา และเป็นกฎที่นักวิทยาศาสตร์ยอมรับกันอย่างเอกฉันท์ ในธรรมชาติเราเห็นว่ากฎนี้เป็นความจริงเสมอโดยไม่มีข้อยกเว้น ทฤษฎีวิวัฒนาการขัดแย้งกับกฎไบโอเยเนซิศ เพราะทฤษฎีวิวัฒนาการบอกว่าสิ่งไม่มีชีวิตกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิต ความจริงก็คือว่า ชีวิตย่อมมาจากสิ่งมีชีวิตก่อนหน้านี้เสมอ แม้กระทั่งผู้เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการยังยอมรับกฎไบโอเยเนซิศนี้ เช่น ดร.จอร์จ จี. ซิมพ์ซัน แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้กล่าวว่า "ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่ากฎไบโอเยเนซิศ เป็นกฎที่ว่าชีวิตย่อมมาจากชีวิตที่มาก่อนหน้าและเซลล์ที่เป็นหน่วยเล็กของชีวิตย่อมมาจากผลผลิตจากเซลล์เสมอ โดยไม่มาจากทางอื่นแน่นอน"
พระคัมภีร์และกฎไบโอเยเนซิศ
กฎไบโอเยเนซิศ สอนชัดเจนว่าชีวิตเกิดมาจากชีวิตที่มาก่อนหน้า และชีวิตจะผลิตลูกสืบทอดเป็นไปตามชนิดของมัน กฎนี้เป็นสิ่งที่พระคัมภีร์ได้สอนเป็นเวลานาน ในเยเนซิศ 1.11-12 พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า "พระเจ้าตรัสให้ต้นหญ้าต้นผักที่มีเมล็ด และต้นไม้ที่มีผลที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน งอกขึ้นในแผ่นดินก็เป็นดังนั้น ต้นหญ้าต้นผักที่มีเมล็ดตามชนิดของมัน และต้นไม้ที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน ทุกอย่างก็งอกขึ้นที่แผ่นดิน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี" และในเยเนซิศ 1.24-25 "พระเจ้าตรัสให้ฝูงสัตว์มีชีวิตบังเกิดขึ้นที่แผ่นดินตามชนิดของมัน คือสัตว์ใช้ สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าทั้งปวงตามชนิดของมัน และสรรพสัตว์ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดินตามชนิดของมันทุกอย่าง แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี"
ข้อความในพระคัมภีร์ข้ออื่น ๆ เช่นในเลวีติโก 11.13-19 ได้กล่าวย้ำว่า ชีวิตมาจากสิ่งที่มีชีวิตเท่านั้น และชีวิตจะผลิตชีวิตเพิ่มขึ้นตามชนิดของมัน กฎไบโอเยเนซิศเป็นกฎที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในวิชาชีววิทยาและวิทยาศาสตร์สาขาอื่นที่สัมพันธ์กัน เช่น การเกษตรจนถึงวิศวพันธุกรรม กฎไบโอเยเนซิศเป็นกฎที่สูงสุดที่คนต้องเคารพในโลกของชีววิทยา ถั่วลันเตาจะผลิตถั่วลันเตา กุหลาบจะผลิตเป็นกุหลาบ ม้าจะผลิตลูกออกมาเป็นม้า สุนัขจะผลิตลูกออกมาเป็นสุนัข นั่นเป็นการทำงานของกฎไบโอเยเนซิศ ทุกสิ่งจะผลิตเป็นไปตามชนิดของมัน พระคัมภีร์กับวิทยาศาสตร์ที่เป็นวิทยาศาสตร์ขนานแท้มีผู้ให้กำเนิดเดียวกันคือ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ พระเจ้าตรัสมุสาไม่ได้ (ติโต 1.2) ถ้าเช่นนั้นเราแน่ใจได้ว่าหนังสือแห่งธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา มีความสอดคล้องกับหนังสือพระคัมภีร์ของพระองค์ กฎไบโอเยเนซิศเป็นตัวอย่างหนึ่งตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นสิ่งที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์เป็นความจริงทุกประการ